ข้ามไปที่เนื้อหา
ทำไมเครื่องซักผ้าขึ้น UE? แนะนำวิธีการแก้ไขและป้องกัน

ทำไมเครื่องซักผ้าขึ้น UE? แนะนำวิธีการแก้ไขและป้องกัน

ในการใช้งานเครื่องซักผ้าบางครั้งอาจจะเจอข้อผิดพลาดได้ เช่น เครื่องไม่ทำงาน, อะไหล่เครื่องซักผ้ามีปัญหา หรือแม้กระทั่งเครื่องซักผ้าขึ้นรหัสต่างๆ เช่น “UE” ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนหงุดหงิดขณะใช้งาน แต่ถ้าหากคุณติดตามและอ่านบทความจาก KSP Parts เรามีข้อแนะนำที่คุณสามารถแก้ไขปัญหาด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเจอปัญหานี้ครั้งแรก หรือเจอซ้ำหลายครั้งแล้ว คำแนะนำในบทความนี้จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเปรียบเสมือนช่างซ่อมมาเอง ถ้าหากพร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย!

ผู้หญิงกำลังนั่งอ่านคู่มือวิธีการแก้ไขปัญหาเครื่องซักผ้าขึ้น UE

เครื่องซักผ้าขึ้น UE คืออะไร?

เครื่องซักผ้าขึ้น UE หรือ ย่อมาจาก "Unbalanced Error" เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเกิดปัญหาที่เกี่ยวกับการไม่สมดุลของถังซักภายในเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าจะแสดงรหัสนี้ขึ้นมาเมื่อระบบตรวจพบว่าถังซักมีน้ำหนักไม่สมดุล หรือไม่สามารถหมุนได้อย่างถูกต้องในระหว่างการซักหรือปั่นแห้ง ซึ่งรหัสข้อผิดพลาด UE มักจะปรากฏบนหน้าจอแสดงผลของเครื่องซักผ้าเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานนั่นเอง

6 สาเหตุการเกิดข้อผิดพลาด UE ของเครื่องซักผ้า

โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่เครื่องซักผ้าขึ้น UE มักจะพบในเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ บ่อยมากกว่าเครื่องซักผ้าที่ใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป โดยอาจจะเกิดจากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เครื่องไม่สามารถหมุนถังซักได้อย่างถูกต้อง ดังนี้

1. การกระจายผ้าในถังซักไม่สมดุลกัน

ถังซักในเครื่องซักผ้าจำเป็นที่จะต้องมีการกระจายน้ำหนักของผ้าอย่างสมดุลกัน เพื่อให้การหมุนขณะซักราบรื่นและไม่ติดขัด เมื่อผ้าอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สมดุล เช่น การซักผ้าชิ้นใหญ่เพียงชิ้นเดียวหรือการรวมผ้าหลายชิ้นที่มีขนาดและน้ำหนักแตกต่างกัน จะทำให้เกิดการกระจายแรงที่ไม่เท่ากันและทำให้ถังซักเสียสมดุลได้

2. ปริมาณผ้าที่ใส่ในถังซักมากเกินไป

การใส่ผ้ามากเกินไปในปริมาณที่เยอะๆ จะทำให้ถังซักรับน้ำหนักของผ้าที่มากเกินไปและไม่สามารถรักษาสมดุลได้เมื่อเริ่มการทำงาน ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องซักผ้าไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเครื่องซักผ้าขึ้น UE ขึ้นมา

3. การวางเครื่องซักผ้าในพื้นที่ไม่เหมาะสม

หากเครื่องซักผ้าไม่ได้ถูกวางอยู่บนพื้นผิวที่เรียบและเกิดความมั่นคง ถังซักจะไม่สามารถหมุนได้อย่างถูกต้อง เพราะการสั่นสะเทือนที่เกิดจากการไม่สมดุลของพื้นผิวจะทำให้ถังซักเกิดเสียสมดุลและทำให้เครื่องแสดงข้อผิดพลาด UE บนเครื่องซักผ้าขึ้นมาได้

4. ปัญหาระบบภายในเครื่องซักผ้า

การที่เครื่องซักผ้าขึ้น UE ทั้งที่คุณไม่ได้ใส่ผ้าในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดปัญหาจากทางกลไกภายในเครื่องซักผ้าได้เช่นเดียวกัน เช่น เซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจจับความสมดุลมีปัญหาหรือเสียหาย ชิ้นส่วนภายในเช่น ลูกปืน หรือส่วนอื่น ๆ เสื่อมสภาพ สามารถทำให้เครื่องแสดงข้อผิดพลาดได้

5. ปัญหาการระบายน้ำ

การที่เครื่องซักผ้าไม่สามารถระบายน้ำออกจากถังซักได้ อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักที่ไม่สมดุลในถังซัก ซึ่งส่งผลให้เครื่องซักผ้าขึ้น UE เช่น ท่อน้ำทิ้งหรือระบบการกรองอุดตัน ทำให้น้ำไม่สามารถระบายออกได้เต็มที่ หรือปัญหาในระบบปั๊มน้ำหรือวาล์วระบายน้ำ เป็นต้น

6. การตั้งค่าระบบการซักที่ไม่เหมาะสม

บางครั้งการตั้งค่าการซักที่ไม่เหมาะสมก็อาจเป็นปัญหาที่ทำให้เครื่องซักผ้าขึ้น UE เช่น การเลือกโปรแกรมที่ไม่เหมาะกับชนิดและปริมาณของผ้า อาจทำให้เกิดปัญหาการไม่สมดุลในระหว่างรอบการหมุน

ผู้หญิงใส่ผ้าในเครื่องซักผ้ามากเกินไป

9 ขั้นตอนวิธีการแก้ไขเครื่องซักผ้าขึ้น UE

เมื่อเครื่องซักผ้าขึ้น UE หลายๆ คนอาจจะทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าถ้าหากเครื่องซักผ้าขึ้น UE จะต้องแก้ยังไง ซึ่ง KSP Parts มีวิธีแก้ไปัญหานี้ได้เพียง 9 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. หยุดการทำงานของเครื่องซักผ้า

  • กดปุ่มหยุดหรือหยุดชั่วคราว : หยุดการทำงานของเครื่องชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยก่อนเริ่มต้นแก้ไข
  • รอให้ถังซักหยุดหมุนเอง : รอจนกว่าถังซักจะหยุดหมุนสนิทก่อนที่จะทำการเปิดฝาเครื่อง

2. จัดเรียงผ้าใหม่

  • เปิดฝาเครื่องซักผ้า
  • ตรวจสอบและปรับตำแหน่งของผ้าในถังให้กระจายอย่างสม่ำเสมอ หากซักผ้าขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว เช่น ผ้านวม ให้เพิ่มผ้าชิ้นเล็ก 2-3 ชิ้นเพื่อช่วยในการกระจายน้ำหนัก

3. ลดปริมาณผ้าในถังซัก

  • หากใส่ผ้ามากเกินไปให้นำผ้าบางส่วนออกจากถังซักเพื่อให้มีปริมาณที่พอดี
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณผ้าที่ใส่ไม่เกินความจุที่เครื่องซักผ้ารองรับ

4. ตรวจสอบการวางเครื่องซักผ้า

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องซักผ้าตั้งอยู่บนพื้นผิวที่เรียบและมั่นคง
  • ปรับฐานรองของเครื่องซักผ้าให้ได้ระดับโดยใช้ตัวปรับฐานที่มุมเครื่อง เพื่อให้เครื่องตั้งอยู่ในแนวที่สมดุล

 5. ตรวจสอบระบบระบายน้ำ

  • ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งว่ามีสิ่งกีดขวางหรือไม่
  • ทำความสะอาดไส้กรองและท่อน้ำทิ้งอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการอุดตัน

6. รีเซ็ตเครื่องซักผ้า

  • ปิดเครื่องซักผ้าโดยกดปุ่มปิดหรือดึงปลั๊กออกจากเต้าเสียบไฟ
  • รอประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้ระบบเครื่องซักผ้ารีเซ็ตอย่างสมบูรณ์
  • เสียบปลั๊กและเปิดเครื่องซักผ้าใหม่อีกครั้ง

7. ตั้งค่าการซักใหม่

  • เลือกโปรแกรมซักที่เหมาะสมกับชนิดและปริมาณของผ้า โดยเลือกโปรแกรมที่รองรับการกระจายน้ำหนักที่เหมาะสม
  • กดปุ่มเริ่มเพื่อเริ่มการซักใหม่อีกครั้ง

8. ตรวจสอบอีกครั้ง

  • ดูว่าเครื่องซักผ้ายังแสดงข้อผิดพลาด UE หรือไม่ในระหว่างการซักหรือปั่นแห้งทดสอบการทำงานของเครื่อง
  • หากข้อผิดพลาดหายไป ให้ตรวจสอบว่าเครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างปกติในการซักครั้งต่อไป

9. ติดต่อช่างซ่อม (ถ้าจำเป็น)

  • หากเครื่องซักผ้าขึ้น UE ยังคงปรากฏอยู่ หลังจากทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น อาจจำเป็นต้องติดต่อศูนย์บริการหรือช่างซ่อมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น

วิธีป้องกันเครื่องซักผ้าขึ้น UE

  • กระจายผ้าให้สมดุลในถังซักก่อนเริ่มการซักทุกครั้ง
  • ใส่ผ้าในปริมาณที่เหมาะสมตามคู่มือการใช้งานของเครื่องซักผ้า
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องซักผ้าตั้งอยู่บนพื้นผิวที่เรียบและมั่นคงเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือน
  • ทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งและไส้กรองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการอุดตัน
  • เลือกโปรแกรมซักที่เหมาะสมกับชนิดและปริมาณของผ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อผิดพลาด  
    การซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม

การแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด UE ในเครื่องซักผ้านั้นไม่ยากเกินไปและสามารถทำได้เองที่บ้านกับเครื่องซักผ้าทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้าขึ้น UE Samsung หรือ lg ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เช่น การจัดเรียงผ้าให้สมดุล ลดปริมาณผ้า และการตรวจสอบความมั่นคงของการวางเครื่องซักผ้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นวิธีที่ได้ผล นอกจากนี้การดูแลและทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาข้อผิดพลาดต่างๆ ได้

บทความถัดไป โซล่าเซลล์ คืออะไร? ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์

ทิ้งข้อความไว้

* ช่องที่ต้องเติม

โพสต์บล็อกอื่น ๆ